Teaching Thai

Teaching Thai
Rapin Chuchuen

Tuesday, July 11, 2017

งานในสมุดแบบฝึกหัด ใครค้างงานดูด้วยคะ





ชิ้นงานที่ 9 แบบฝึกหัด บอกความแตกต่างระหว่างวรรณคดีกับวรรณกรรม



งานชิ้นที่ 13 ใครคือฆาตกร ?


ชิ้นงานที่  13 ตอบคำถามท้ายเรื่อง
1.          ใครคือฆาตกร
                      2.          แนวคิดของเรื่องเป็นอย่างไร
                    3.          ตอบคำถาม ตามหัวข้อดังนี้
3.1 ผู้ร้ายคือใคร
              3.2 ตัวเอก(นักสืบ)คือใคร
 3.3 ตัวร้ายคือใคร
3.4 เหยื่อคือใคร
                              3.5 สถานที่(ฉาก) มีกี่ฉากที่ไหนบ้าง

นักเรียนอ่านเรื่องจากข้างล่างนี้ ได้คะเหมือนกันกับในห้องเรียน

อ่านเรื่องแนวสืบสวนข้างล่างนี้แล้วตอบคำถามท้ายเรื่องคะ

                            ใครคือฆาตกร                  

                  ช่วงบ่ายในวันอาทิตย์วันหนึ่งในเดือนเมษายน พงศยา ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียจากเสียงไซเรนที่คุ้นหู เธอคิดว่าตัวเองคงหูฝาดไปเพราะทำคดีติดต่อกันมาหลายวันและเพิ่งได้กลับมาพักผ่อนเมื่อเช้า และนั่นคงเป็นอาการความจำเสียงติดค้างในสมอง แต่แล้วเมื่อชันตัวขึ้นจากที่นอนแล้วมองลอดม่านหน้าต่างไปยังบ้านฝั่งตรงกันข้างก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่คิด เธอล้มตัวลงกับหมอนแล้วพึมพำออกมาพร้อมกับถอนหายใจยาว
                  "บ๊ายบาย...วันหยุดของฉัน"
รถสายตรวจและพิสูจน์หลักฐานจอดเรียงติด ๆ กันเต็มฝั่งถนนอีกฟากหนึ่ง และมีเจ้าหน้าที่ในชุดสีกากีเดินไปมาขวักไขว่
"คุณสุวิชัยอยู่คนเดียวมานานหลายปีแล้วหลังจากหย่าขาดกับภรรยาของเขา ปรกติเขาก็ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร คือ ออกจะเป็นคนเงียบและเก็บตัว" ชายคนหนึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังจดบันทึกขอมูลลงในสมุดพกบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ 
"เกิดอะไรขึ้นหรือคะ" เสียงของหญิงสาวดังขึ้นข้างหลังของเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังจะตั้งคำถามต่อไป เขาหันกลับไปแล้วก็พบกับพงศยายืนอยู่
"เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษค่ะ" เธอพูดพร้อมกับแสดงบัตรประจำตัว
"คดีนี้ถูกจัดเป็นคดีพิเศษตั้งแต่เมื่อไหร่
?" เขาถามสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
"อ้อ...เปล่าหรอกค่ะ พอดีว่าบ้านของดิฉันอยู่ตรงกันข้ามนี่เอง"
คู่ปรายตามองไปตามจุดหมายพร้อมกับพยักหน้าแบบไม่ค่อยใส่ใจ แล้วหันกลับมาตั้งคำถามใส่พยานตรงหน้าต่อ
 
"อืม...คุณพบเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่และเหตุการณ์เป็นยังไงครับ
?"
"ประมาณ 8 โมงเช้า ผมมาขอต่อสายยางเข้ากับก๊อกน้ำที่หน้าบ้านของเขา ผมรดน้ำอยู่ที่หลังบ้านตัวเองจนถึงราว ๆ 9 โมงครึ่ง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องพอผมเดินออกมาก็ได้ยินว่าคุณสุวิชัยเสียชีวิตอยู่ในบ้าน"
พงศยาไม่ค่อยพอใจนักกับการกระทำที่ได้รับแต่ก็เข้าใจถึงการปฏิบัติงาน เธอถามถึงผู้ดูแลคดี และเขาก็ชี้ให้เธอเข้าไปด้านในด้วยปากกาที่อยู่ในมือ แล้วกลับไปตั้งคำถามต่อ
"อ้าว...ผู้กอง ไม่คิดว่าคดีนี้คุณจะเป็นผู้ดูแล" เธอโพล่งออกมาน้ำเสียงเจือ
ความประหลาดใจเมื่อเดินเข้ามาในที่เกิดเหตุ
"สวัสดีคุณพงศยา เราไม่ได้เจอกันตั้งแต่คดี
'มาเฟียเบลดิดอส' ตอนนี้ผมเข้ามาสังกัดนครบาลถ้านั่นคือสิ่งที่คุณสงสัย" ชายตรงหน้าตอบเสียงราบเรียบ 'อย่างที่เคยเป็น' นายตำรวจหนุ่มยศร้อยเอก แว่วมาว่าจะใกล้เป็นนายพันเร็ว ๆ นี้ รูปร่างสูงโปรงและแข็งแรง ฉลาด แต่ไร้มนุษย์สัมพันธ์สิ้นดี คำพูดแต่ละคำดูเหมือนว่าเข้าใจไปหมดทุกเรื่อง และที่น่าหมั่นไส้ก็คือ มันมักจะถูกไปซะหมด พงศยาคิดนิยามชายหนุ่มตรงหน้าหลังจากไม่ได้พบมาเป็นเวลานานกว่าสองปี
"ผู้ตายเสียชีวิตด้วยการถูกตีที่ศีรษะด้วยของแข็งไร้คมจนกะโหลกร้าวและเสียชีวิตด้วยเลือดคั่งในสมอง อาวุธน่าจะมีลักษณะเส้นผ่าศูนย์กลางราว 5-10 เซนติเมตรซึ่งมีลักษณะคล้ายท่อเหล็ก เสียชีวิตช่วงเวลา 8.30-9.00 ของวันนี้" เขาพูดเรื่อย ๆ ขณะที่อ่านรายงานการสืบสวน
"ค่ะ...เอ่อ" พงศยาอ้าปากแต่ยังไม่ทันที่จะมีคำพูดอะไรหลุดออกไปมากกว่านั้น เขาก็พูดแทรกขึ้นมา
"จากรูปคดี ไม่น่าจะเป็นการชิงทรัพย์เพราะไม่มีทรัพย์สินหายไปและไม่มีการรื้อค้น แต่มีร่องรอยการต่อสู้ภายในห้องรับแขกบริเวณที่ผู้ตายเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบใยในลอนสีขาวขนาดเล็กที่เสื้อผ้าของผู้ตายซึ่งตอนนี้กำลังตรวจสอบ ส่วนเรื่องผู้ต้องสงสัย ตอนนี้มีสามคน คนหนึ่งคุณน่าจะพบแล้ว เพราะคนของเรากำลังสอบถามเขาอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนที่เหลือเป็น พนักงานของบริษัทสูบสิ่งปฏิกูล กับเจ้าหนี้ของเขาซึ่งอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง แต่มีพยานเห็นว่าเขาแวะมาที่นี่เมื่อเช้า...แค่นี้คงพอนะสำหรับสิ่งที่คุณอยากรู้
?" เขาพูดยาวเหยียดและจบด้วยคำถามแบบห้วน ๆ เธอพยักหน้ารับละกล่าวขอบคุณสั้น ๆ พร้อมกับเดินจากมา 
รุ่งขึ้น พงศยาไปทำงานตามปรกติ แต่บนโต๊ะของเธอมีซองเอกสารสำน้ำตาลปิดผนึกวางอยู่ 
"จากนครบาล
?" เธอเอ่ยกับตัวเองเมื่อเห็นตราบนหน้าซองพลางใช้กรรไกรตัดเปิดซองออก แล้วหยิบเอกสารภายในออกมาหัวกระดาษมีตัวหนังสือคุ้นตาอยู่บนหน้าปก 
'บันทึกการสอบสวนผู้ต้องสงสัย ลับ สำนึกงานตำรวจแห่งชาติ'
"ขอบคุณ...ผู้กอง"
คุณ พรชัย (เจ้าหนี้)
"ผมไปหาเขาเพื่อถามถึงกำหนดที่เขาจะชำระหนี้ผม ซึ่งมันก็เลยมานานแล้ว สักประมาณ 7 โมงกว่าได้มั้ง ได้ ๆ ถ้าจะให้เจาะจง ประมาณ 7.40 เรามีปากเสียงกันนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีอะไร เขารับปากว่าจะจ่ายให้ผมในอีกสองสามวัน แล้วผมก็ออกมาจากบ้านของเขาราว 8.00 น. ถ้าไม่เชื่อคุณถามเพื่อนบ้านของเขาดูก็ได้ เพราะผมสวนกันเขาพอดีตอนที่เดินออกมา อีกอย่าง ผมจะเอาอะไรไปฆ่าเขา ทั้งตัวมีแต่กระเป๋าเอกสาร ถึงมันจะทำจากอะลูมิเนียมก็เถอะ อีกอย่าง ผมจะฆ่าเขาไปทำไม ถ้าผมยังต้องรอเงินที่จะมาใช้หนี้จากเขาอยู่"
คุณ ทศพล (เพื่อนบ้าน) 
"ผมเข้าไปหาเขาเวลาประมาณ 8.00 น ตอนที่เขาไปก็สวนทางกับแขกที่มาพอดี ดูเหมือนว่าจะเป็นเจ้าหนี้อะไรสักอย่าง ผมเข้าไปหาเขาเพื่อขอใช้ก็อกน้ำที่หน้าบ้าน เพราะว่าเขาต้องเปิดวาล์วจากข้างในบ้าน ทำไมผมไม่ใช้ก๊อกบ้านตัวเองน่ะเหรอ ก็เพราะว่าสุนัขของเขาน่ะสิ ไปรื้อสวนดอกไม้ของผมซะเละเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แล้วก็ทำท่อน้ำแตกอีก ผมก็เลยต้องมาใช้ก๊อกน้ำของเขา ซึ่งก็สมควรแล้วแหละที่เขาต้องให้ใช้ เราก็คุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายที่ผมจะซ่อมท่อนิดหน่อย แล้วผมก็ออกมาตอนเวลาประมาณ 8.20 หลังจากนั้นก็ไปรดน้ำดอกไม้พรวนดินที่หลังบ้านจนถึงเวลาประมาณ 9.30 ถ้าจะถามถึงสิ่งผิดปรกติก็ไม่มีอย่างอื่นนอกจาก ผมเห็นรถสูบสิ่งปฏิกูลมาจอดที่หน้าบ้านของเขาช่วงประมาณ 9.00 แล้วจู่ ๆ ก็เลือนรถหลังจากจอดได้สัก10นาที หลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงร้อง "
คุณ พรเทพ (พนักงานรถสูบสิ่งปฏิกูล)
ทางบริษัทได้รับงานที่หมู่บ้านนี้มาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ แต่คิวเราเต็มจึงกำหนดให้มาลงทำงานวันอาทิตย์ บ้านที่ว่างจ้างเรามาอยู่ห่างจากบ้านที่มีคนตายไปสองหลังแต่บริเวณนั้นเป็นที่ห้ามจอด ผมก็เลยต้องไปจอดรถที่หน้าบ้านของเขา เพราะเป็นบ้านที่ใกล้ที่สุดที่สายสูบของเราจะไปถึงบ้านที่ว่าจ้าง เรื่องที่ผมเลื่อนรถหลังจากจอดไปได้สักพักน่ะเหรอ
? คือ หลังจากลากท่อเสร็จแล้วผมสักเกตุเห็นว่าล้อรถทับท่อยางอะไรก็ไม่รู้ ผมก็เลยเลื่อนรถ พอทำงานเสร็จ ก็บังเอิญเห็นว่า บ้านของเขามีตราของบริษัทติดอยู่ ก็เลยเข้าไปสอบถาม เผื่อว่าเขาอาจจะใช้บริการ แต่พอเรียกอยู่สักพักไม่มีคนตอบผมก็เลยเดินเข้าไปคิดว่าจะเคาะเรียกที่ประตู ก็บังเอิญไปเห็นเขานอนจมกองเลือดอยู่ในบ้าน ผมก็เลยส่งเสียร้อง
พงศยาอ่านสำเนาบันทึกการสอบสวนแล้วก็วางมันลงบนโต๊ะ พร้อมกับผิวปากเบา ๆ ด้วยความพอใจ

"อ่าฮ้า...ชั้นพอรู้แล้วว่าใครโกหก แล้วใครน่าจะเป็นฆาตกร"


No comments:

Post a Comment